รีวิว IPhone 5S สมาร์ทโฟนอดีตรุ่นท็อปจาก Apple
เป็นที่รู้กันว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone ปีละเพียง 1 รุ่นเท่านั้น และในแต่ละปีจะมีการสลับรุ่นที่เป็น Major Change หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านดีไซน์ เช่น iPhone 3g, 4, 5 กับรุ่นที่เป็น Minor Change ที่เป็นการอัพเดทสเป็ค เพิ่มความเร็ว เพิ่มความสามารถใหม่ โดยยังคงดีไซน์เดิมเอาไว้ เช่น iPhone 3gs, 4s
แน่นอนว่า iPhone 5s จัดเป็นการเปลี่ยนแปลง Minor Change แต่ด้วยการเพิ่มระบบสแกนลายนิ้วมือหรือ Touch ID เข้ามา, การอัพเดทกล้องให้คมชัดยิ่งขึ้น หรือการใช้ชิป A7 ที่เร็วกว่าเดิมถึงเท่าตัว
และสำหรับ iPhone 5S มีการเพิ่มสีใหม่มาอีก 1 สี ก็คือ สีทอง หรือ Gold iPhone
สรุปก็คือ iPhone จะมีสีทั้งหมดก็คือ 3 สี Gold,Silver,SpaceGray
และก็มาพูดเรื่องสเปคของตัวเครื่อง
iPhone 5S ตัวนี้มาพร้อมกัน CPU 64 Bit 2 คอร์ด ตัวแรกของ Apple ทำให้มีความเร็วของการประมวลผลทิ้งห่างจาก iPhone ตัวที่แล้วมากโดยทีเดียว และถือเป็น CUP รุ่นที่ 7 ของ Apple หรือ A7 นั้นเอง
แล้วก็เรื่องกล้อง
ถ้าเรื่องกล้องจะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับโทรศัพท์แต่ทาง Apple ได้ให้กล้องมาแค่ 8 ล้านพิกเซลแต่มันเป็นกล้อง 8 ล้านพิกเซลที่เพอร์เฟ็ค และสิ่งที่เพิ่มใหม่ก็คือ
- กล้องใน iPhone 5s มีการเพิ่มขนาดรูรับแสงให้รับภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น
- ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการถ่ายภาพกลางคืน ที่มี Noise น้อยลง ความคมกว่าเดิมมาก
- ระบบแฟรชแบบ 2 Tone ทำให้เราได้ภาพที่สีตรงกับผิวมากขึ้น ไม่เป็นซอมบี้อีกแล้ว
- ลูกเล่นถ่ายวิดีโอแบบ Slow-mo 120 เฟรมต่อวินาที ก็ทำให้ถ่ายภาพได้สนุกมากขึ้น
- สามารถถ่ายวีดีโอแบบสโลโฒชั้นได้ 120 fps ต่อวินาที และความอะเอียด 720P
การรองรับคลื่นคสามถี่โทรศัพท์มือถือในประเทศไทย
iPhone 5s นอกจากจะรองรับระบบ Edge และ 3G ในไทยแล้ว ยังสามารถใช้งานร่วมกับ 4G / LTE บนคลื่น 2100 MHz ของ TrueMove-H Dtac และ Ais ได้อีกด้วย ซึ่งหากต้องการใช้งาน iPhone 5s ให้เต็มประสิทธิภาพ ก็สามารถเปิดใช้งาน 4G ได้ทันที
ความจุของตัวเครื่องมีให้เลือก 3 ขนาดก็คือ
16 GB 32 GB 64GB และราคาก็จะเพิ่มไปตามขนาดของความจุของเครื่อง
และมือตายสำหรับ iPhone รุ่นนี้ก็คือ Touch ID สแกนลายนิ้วมือที่ไม่เหมือนใคร
ระบบสแกนลายนิ้วมือที่เราเคยเห็นในโน้ตบุ้คหรือสมาร์ทโฟนบางรุ่น เลือกที่จะใช้ตัวสแกนแบบเส้น แล้วเอานิ้วลากขึ้นลง ข้อดีคือประหยัดพื้นที่ แต่ข้อเสียคือผู้ใช้ต้องลากนิ้วไปมา แอปเปิลเลือกที่จะทำระบบสแกนแบบที่วางนิ้วลงไปเฉยๆ แถมเรายังมองไม่เห็นแท่นสแกนลายนิ้วมืออีกด้วย
เพราะแอปเปิลเลือกที่จะฝังระบบสแกนลายนิ้วมือไว้ใต้ปุ่ม Home ซึ่งเป็นการดีไซน์ที่ทำได้ยากมาก แต่สะดวกกับผู้ใช้สุดๆ นอกจากจะทำให้เครื่องปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ยังใช้งานง่ายมากจนไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่
- เราสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้ 5 นิ้ว
- ความเร็วในการสแกน เร็วกว่าที่คิด คือใช้เวลาไม่ถึง 1 วินาที
- นอกจากใช้ปลดล็อกเครื่องแล้ว ยังสามารถใช้ซื้อแอพ, หนัง, เพลงใน App Store ได้อีกด้วย
- จากการทดลองใช้ไปนานๆ ความแม่นยำจะลดลงเมื่อมือเราเปียก หรือมีคราบมันมาเกาะที่ปุ่ม Home แต่แค่เช็ดปุ่มก็ใช้ได้แล้ว
- ปุ่ม Home ใหม่จะเรียบแบน ไม่บุ๋มลงไปแบบไอโฟนรุ่นก่อนแล้ว
- ปุ่มโฮมใหม่จะเป็นแซฟไฟร์ ซึ่งมีความแข็งแรงมาก ใช้มีดขูดก็ไม่เป็นรอย
เรื่องหน้าตาก็ขาดไม่ได้
ตอนนี้จะยังไม่มีแอพที่แสดงพลังของ A7 ออกมาได้เต็มที่นัก ซึ่งคงต้องรอเวลาในช่วงปีหน้าคงจะได้เห็นกันมากขึ้น แต่การทำงานบน iOS 7 ก็ทำได้ลื่นไหลมากกว่าไอโฟนรุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการโหลดแอพขึ้นมาจะทำงานได้เร็วกว่า iPhone 5, 5c, 4s อยู่มากทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น